Why do high-level employees earn three times as much as ordinary employee?

มักมีคนพูดว่า “คนที่เป็นผู้ใหญ่หรือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทนั้นมีรายได้เป็นสามเท่าของคนปกติ” ฟังดูก็น่าจะสมเหตุสมผลหากเพราะเขาเหล่านั้นต้องทำงานอุทิศตน ใช้สมองคิดและพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อบริษัท บริษัทที่มีอัตราค่าใช้จ่ายด้านแรงงานสูงมักเป็นที่กล่าวขานว่าใจดีกับพนักงาน แต่ความเป็นจริงเงินเดือนที่สูงๆ นั้นถูกแบ่งมาจาก “ส่วนเพิ่มมูลค่า (Value Added)” ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินกิจการของบริษัท มีการคำนวนที่มาซับซ้อนแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของกิจการ แต่ก็สามารคำนวนคร่าวๆ จากกำไรขั้นต้นได้คือ กำไรขั้นต้น = ยอดขาย – ต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต ซึ่งส่วนเพิ่มมูลค่าที่ได้เกิดขึ้นนั้นบริษัทจะแบ่งเอามาจ่ายค่าใช้จ่ายทางด้านบุคคล ค่าเช่า ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพื่อที่จะรักษาบริษัทไว้และทำกำไรให้เกิดขึ้น เกิดส่วนเพิ่มมูลค่าต่อไปอีกเรื่อยๆ เมื่อนำส่วนเพิ่มมูลค่าที่ถูกใช้เป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคคล มาหารด้วยส่วนเพิ่มมูลค่าทั้งหมดจะเรียกว่า “อัตราค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน (Labor’s share)” สัดส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจ สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ที่มีผลประกอบการดี จะมีอัตราค่าใช้จ่ายภาคแรงงานเท่ากับ 35% ของส่วนเพิ่มมูลค่าทั้งหมด เรียกได้ว่าธุรกิจชั้นนำจะแบ่งเงินให้กับภาคแรงงานเพียง 1 ใน 3 ของกำไรที่ได้เพิ่มมาเท่านั้น ในทางกลับกัน หากเงินจำนวนมากถูกนำไปใช้ในส่วนของภาคแรงงานแล้ว จะทำให้ไม่สามารถแบ่งไปใช้ด้านอื่นๆ เช่น การวิจัย ติดตั้งเครื่องจักร เพิ่มการผลิตได้อีก ส่วนเพิ่มมูลค่านั้นนอกจากจะแบ่งไปยังค่าใช้จ่ายด้านแรงงานแล้ว บริษัทยังแบ่งเงินให้กับค่าเช่า ดอกเบี้ย ทุนทั้งหมดที่ลงไปในกิจการ การวิจัย การติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องจักร […]