"Skills, Knowledge, Abilities, and Experiences

are only useful....

If you are at the right place "

Memories of Bygone days : 0100

A photo of me and my colleagues, along with some GoldStar Company employees (possibly managers). This picture was taken at the Korea Tower.

Memories of Bygone days : 0011

Factory workers often use their long weekends to explore other provinces. This photo shows our trip to Chanthaburi province, but unfortunately, we got caught speeding and ended up paying a fine at the police station.

Memories of Bygone days : 0001

While I may not remember the names of each individual in this photo, I’m filled with pride every time I gaze upon it, reflecting on my time working at Srithai GoldStar Co., Ltd. The name of this company has been changed for over 20 years now, and it has changed again. I don’t even know […]

First trip to Korea (1990)

GoldStar

ผมจำวันเวลาแบบเป๊ะๆ ไม่ได้ว่าครั้งแรกที่มีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศเมื่อไหร่ แต่พอจะจำปีได้ก็น่าจะประมาณ 1990 (2533) เลยอยากเอาประสบการณ์ครั้งแรกของการได้ไปต่างประเทศมาเล่าให้ฟังขำๆ ในชีวิตจนปัจจุบันมีโอกาสเดินทางไป ตปท. มาก็สักสิบครั้งได้ ประเทศที่ไปมาก็มี เกาหลี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, สิงค์โปร, ฟิลิปปินส์, อเมริกา, พม่า และประเทศลาว ในทุกๆ ประเทศที่ได้ไปมาเกือบทั้งหมดคือไปทำงาน หรือถูกส่งไปฝึกงาน ยกเว้นพม่าประเทศเดียวที่ได้เหยียบข้ามไปเที่ยวแบบแป๊บๆ  เกาหลีเป็นประเทศแรกที่ได้มีโอกาสไปเยือนมาและไปมาหลายครั้ง เนื่องจากพอเรียนจบก็ได้เข้าทำงานโรงงานของเกาหลีที่มาเปิดทำการผลิตอุปกรณ์สื่อสารในประเทศไทย ซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อว่า GoldStar  คนยุคหลังๆ อาจจะรู้จักเกาประเทศเกาหลีหรืออาจจะเรียกว่าความบูมของประเทศเกาหลีในสายตาของคนไทยก็จากนักร้องหรือละคร โดยเฉพาะเรื่องแดจังกึม ซึ่งโด่งดังมาก ณ.ตอนนั้น แต่สำหรับผม ผมเริ่มรู้จักเกาหลีตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ภาพจำของผมมีสองสิ่งซึ่งได้จากการดูข่าวต่างประเทศในสมัยนั้น สิ่งแรกคือประเทศเกาหลีกำลังจะเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งกีฬาโอลิมปิคของปี 1988 จึงมีการประโคมข่าวออกทางสื่อทีวีอยู่บ่อยๆ และอีกสิ่งหนึ่งคือข่าวการชุมนุมประท้วงของประชาชนหรือแรงงานในเกาหลีซึ่งมีขึ้นบ่อยมากและเป็นข่าว จนมันกลายเป็นภาพจำของผม จนเมื่อผมเรียนจบ ปวส.ในปี 1989 และได้ทำงานกับโรงงานเกาหลีที่ชื่อ GoldStar และปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น LG หลังจากทำงานได้กว่า 1 ปี จึงได้ถูกส่งไปดูงานที่โรงงานแม่ที่เมือง Anyung หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นเวลาสองอาทิตย์ได้ (โรงงาน LG ในเกาหลีมีหลายแห่งมาก […]

“สายลมเย็น” เพลงวันวานกับความทรงจำ

สุนทราภรณ์

เคยฟังเพลงนี้ครั้งแรกที่ขับร้องโดยคุณ พรศุลี วิชเวช จากการออกรายการทีวี และฟังจากม้วนเทป หรือครั้งที่ผมเคยไปดูการแสดงของวงสุนทราภรณ์ ที่แสดงมาแสดงเป็นประจำที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ เวลาได้ยินเพลงนี้ก็จะนึกถึงคุณ พรศุลี เหมือนกับว่าเป็นเพลงเอกหรือเพลงประจำของเขาไปเลย แต่พอได้ศึกษาประวัติของเพลงนี้ พบว่าผู้ที่ขับร้องมาก่อนหน้าก็มีคุณ ประภาศรี นรินทรกุล ณ อยุธยา ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้ในละครร้องของคณะแม่เลื่อน แต่ต่อมาถูกนำมาร้องประจำโดยคุณ มัณฑนา โมรากุล แต่ไม่ได้บันทึกแผ่นเสียง (ขอขอบคุณข้อมูลภาพและบทความบางส่วนจากหนังสือ ตำนานความเป็นมาของสุนทราภรณ์)

“ฟ้าแดง” เพลงวันวานกับความทรงจำ

สุนทราภรณ์

รู้จักเพลงนี้ครั้งแรกเมื่อตอนที่คุณ แจ้ ดนุพล นำมาขับร้องและทำดนตรีใหม่ หากจำไม่ผิดน่าจะในเทปชุด “แจ้ลายไทย” และก็อีกครั้งในเวอร์ชั่นของคุณ เทห์ อุเทน พรหมมินทร์ ซึ่งน่าจะอยู่ในอัลบั้ม “แกรมมี่โกลด์ สุนทราภรณ์” ไพเราะทั้งสองเวอร์ชั่น และพอได้ค้นหาประวัติของเพลงก็พบว่าเป็นเพลงที่นำมาจากเพลงไทยเดิมชื่อ “มอญอ้อยอิ่ง” มีนักร้องหลายคนนำเพลงนี้กลับมาร้องและทำดนตรีใหม่ ซึ่งก็มีความไพเราะแตกต่างกันไป อยากชวนให้ลองฟังตัวอย่างเวอร์ชั่นของคุณ อุเทน พรหมมินทร์ หรือของคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์ ดูครับ (ขอขอบคุณข้อมูลภาพและบทความบางส่วนจากหนังสือ ตำนานความเป็นมาของสุนทราภรณ์)

“ปีศาจวสันต์” เพลงวันวานกับความทรงจำ

สุนทราภรณ์

ครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้เป็นปี พ.ศ. 2530 ตอนที่กำลังเรียนชั้น ปวส.1 อยู่ ปกติด้วยเป็นคนที่ชอบนอนดึกเที่ยงคืนตีหนึ่งอยู่แล้วเพราะชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงจากรายการวิทยุ สมัยนั้นรายการวิทยุรายการหนึ่งที่ผมชื่นชอบมากชื่อ “เพลงไทยคุณขอมา” ของดีเจ ศิริชัย เลิศวิริยะชัย น่าจะอยู่ที่คลื่น FM93Mz เวลาของการจัดรายการแบ่งเป็นหลายช่วงตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเที่ยงคืนได้ ซึ่งจะเปิดเพลงวัยรุ่นของยุคนั้น แต่หลังจากจบรายการนั้นแล้ว (ประมาณเที่ยงคืนไปแล้ว) ก็จะมีรายการของนักจัดอีกท่านหนึ่งผมจำชื่อไม่ได้ เพลงที่เปิดจะเป็นเพลงเก่าๆ สมัยสุนทราภรณ์หรือเรียกว่าเพลงรุ่นยุคของพ่อแม่ที่เขาฟังกัน (จริงๆ ผมก็ไม่เคยได้ยินพ่อแม่ฟังเพลงสุนทราภรณ์เลยนะครับ ที่เคยจะพอได้ยินก็น่าจะของผ่องศรี ซึ่งอยู่ในกลุ่มเพลงลูกทุ่งซะมากกว่า) รายการนี้ผู้จัดจะเปิดเพลงเก่าต้นฉบับให้ฟังแทบทั้งหมด จริงๆ ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้ชอบเพลงเก่าเท่าไหร่นัก ถ้าจะชอบก็ชอบตรงความละเมียดละไมของเนื้อร้อง  แต่การเรียบเรียงเสียงดนตรีที่ใช้บรรเลงฟังดูไม่ทันสมัยเท่าไหร่เมื่อเทียบกับยุคสมัยของเพลง ณ เวลานั้น ปกติผมก็จะนอนฟังแบบเคลิ้มๆ หลับๆ ตื่นๆ ไปในช่วงเวลานั้น และคืนวันหนึ่งที่กำลังนอนเคลิ้มอยู่นั้นได้ยินเสียงเพลงเพลงหนึ่งซึ่งเป็นเพลงเก่าที่มีการเอามาทำดนตรีใหม่ด้วยนักร้องใหม่ที่ไม่รู้จักมาก่อน ผมไม่ทันได้ยินที่ผู้จัดรายการประกาศว่าเพลงนี้ชื่อเพลงอะไรและร้องโดยนักร้องหรือวงดนตรีใด แต่ก็จำความไพเราะของเพลงได้จับใจ พอรุ่งเช้าวันต่อมาหลังจากที่ไปเรียนหนังสือจนเลิกเรียนแล้วผมรีบเดินไปร้านแผงขายเทปเพลงที่ตลาดๆ ใกล้ๆ กับโรงเรียน จะถามคนขายก็ถามไม่ถูกว่าต้องการเทปเพลงของนักร้องคนไหนหรือวงดนตรีใด ก็ได้แต่ไล่มองแสกนหน้าปกของตลับเทปบนแผงไปเรื่อยๆ จนไปสะดุดปกเทปที่เขียนว่า “เยื่อไม้ 1” เห็นแค่นี้ก็รู้เลยว่าเพลงที่ต้องการต้องอยู่ในม้วนนี้แน่นอน หยิบมันขึ้นมาดูแล้วไล่ดูรายชื่อเพลง ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้เลยว่าเพลงที่ต้องการนั้นมีชื่อเพลงว่าอะไร แต่ก็ไล่อ่านไปจนสะดุดกับชื่อเพลงหนึ่งที่ชื่อว่า “ปีศาจวสันต์” จึงมั่นใจว่าใช่เลยมันต้องเป็นเทปม้วนนี้แน่ หลังจากได้นำกลับมาเปิดฟังที่บ้าน ก็เป็นไปตามที่คิดไว้ […]

ขนมทำบุญ

ขนมทำบุญ

พอดีเมื่อปีก่อนที่บ้านทำบุญบ้านแล้วเห็นเขาวางเรียงซ้อนถาดขนมไว้แล้วดูสวยดีเลยถ่ายเก็บไว้ดูเล่นเพราะนึกถึงตอนเด็กๆ ที่มีส่วนร่วมในขั้นตอนการทำขนมไทยๆ พวกนี้ สมัยนี้เวลาทำบุญผมไม่ค่อยเห็นแล้วว่าบ้านงานหรือเจ้าภาพจะทำขนมเอง ส่วนมากจะซื้อสำเร็จรูปเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่บ้านผมเองยังทำเองบ้างบางรายการและซื้อสำเร็จรูปบ้างจากตลาด แต่นึกถึงตอนเป็นเด็กๆ ไม่ว่าที่บ้านหรือบ้านยายและละแวกบ้านเวลามีงานบุญผมเป็นเด็กๆ ก็จะได้ไปวิ่งเล่นในงาน สมัยก่อนหากเป็นงานใหญ่ๆ เช่นงานแต่งงานเขาจะมีการเตรียมงานกันหลายวัน เช่นจะได้ยินเขาพูดกันว่า วันงาน วันแห่ วันสุกดิบ ผมก็เรียงวันไม่ถูกว่าวันไหนเป็นวันไหน แต่ก็เข้าใจว่าวันงานจริงคือวันสุดท้ายที่มีแขกเหรื่อมางานเยอะๆ และมีการแห่มาของเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวด้วย ส่วนวันก่อนวันงานก็จะเรียกกันว่าวันสุกดิบซึ่งผมไม่เข้าใจเท่าไรว่าวันสุกดิบนั้นต้องมีกี่วัน แต่เท่าที่เข้าใจผมเข้าใจว่าวันก่อนวันงานจริงน่าจะเรียกว่าวันสุกดิบ ซึ่งเป็นวันที่การปรุงอาหารหวานคาวต้องเสร็จสิ้นและเริ่มนำออกเลี้ยงแขกเหรื่อญาติสนิทที่มาในงาน (ตอนเย็นและกลางคืน) แต่ในความเป็นจริงการเตรียมอาหารหวานคาวจะใช้เวลาไม่เท่ากัน อาหารคาวอยู่ได้ไม่นานจึงต้องทำทีหลังขนมหวาน ขนมหวานเก็บไว้ได้นานจึงมักจะทำล่วงหน้าก่อนสองถึงสามวันก่อนจะถึงวันงานจริง เช่นหากงานมี 4 วัน (ไม่นับวันก่อนหน้านี้อีกที่ต้องมีการเตรียมวัตถุดิบต่างๆ) วันแรกสุดจะเริ่มทำการกวนข้าวเหนียวแดง ซึ่งเป็นขนมที่จะใช้เลี้ยงแขกหรือญาติๆ ที่มาช่วยการเตรียมงาน วันที่สองจะเริ่มทำพวกขนมหวานต่างๆ เช่น ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง ขนมหม้อแกง ซึ่งเก็บไว้ได้นาน ส่วนวันที่สามจะทำพวกสังขยา และวุ้น รวมทั้งเริ่มปรุงอาหารคาว (แกงต่างๆ) ในวันที่สามนี้ด้วย ตอนเด็กผู้ใหญ่มักใช้ให้เป็นลูกมือช่วยทำขนม เด็กๆ หลายๆ คนจะถูกเกณฑ์ให้มานั่งปั้นเม็ดขนุน (ถั่วเขียวซีกที่กวนแล้ว) เป็นที่สนุกสนานเพราะปั้นไปก็แอบหยิบใส่ปากไปด้วย5+ ผมเองได้เคยทำหลายหย่าง เช่นการช่วยแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว เพื่อเอาไข่แดงไปทำทองหยอดและฝอยทอง ส่วนไข่ขาวก็จะเอาไปทำสังขยาในวันถัดไป (เข้าใจว่าสังขยาเสีย(บูด)ง่ายเลยต้องเก็บไว้ทำทีหลัง) […]

“อุษาสวาท” เพลงวันวานกับความทรงจำ

สุนทราภรณ์

ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกจำได้ว่าน่าจะตอนเรียนอยู่มัธยมต้น ช่วงปี 2524-2526 ตอนนั้นยังเด็กนักและยังไม่ได้หลงไหลไปกับการฟังเพลงเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเพลงนี้มันอยู่ในความทรงจำมาตลอด และก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากนั้นได้มีผู้อื่นนำมาขับร้องอีกหรือไม่ และจากการค้นหาประวัติเพลงทำให้ทราบว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ครู สุรัฐ พุกกะเวส ตั้งใจแต่งให้คุณ อุษา พุกกะเวส ภรรยา และเมื่อครูเอื้อ ได้แต่งทำนองแล้วนำมาขับร้องก็ทำให้เพลงนี้โด่งดังมาก สถานีวิทยุแทบทุกแห่งเปิดรายการตอนเช้าด้วยเพลงนี้อยู่นานหลายเดือน ผมคิดว่าในยุคนั้นเพลงสุนทราภรณ์ไม่ได้เป็นที่นิยมที่สุด เท่าที่ผมเห็นคนรุ่นพ่อแม่และน้าอาเขาฟังกัน น่าจะเป็นเพลงของศิลปินเดี่ยวเช่น สุเทพ วงศ์กำแหง, ดาวใจ ไพจิตร, รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส, ธานินทร์ อินทรเทพ และอีกมากมาย แต่เพลงวัยรุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมน่าจะเป็นกลุ่มวงดนตรี เช่น ดิอิมพอสสิเบิ้ล, ฮอทเปปเปอร์, ดอกไม้ป่า, พิ้งแพนเตอร์, แกรนเอ็กซ์ และอีกมากมาย ผมยังไม่ได้รู็จักวงดนตรีเหล่านี้เท่าไหร่ แต่ก็เริ่มๆ คุ้นๆ หูกับเพลงดังๆ หลายๆ เพลง ลองฟังเวอร์ชั่นที่คุณแจ้ ร้องกันดูนะครับ (ขอขอบคุณข้อมูลรูปภาพและบทความบางส่วนจากหนังสือ ตำนานความเป็นมาของสุนทราภรณ์)

Get in Touch !