"Skills, Knowledge, Abilities, and Experiences

are only useful....

If you are at the right place "

Fined for not submitting VAT

Financial

มีประสบการณ์เรื่องโดนปรับเรื่องภาษีเพิ่ม อยู่สองเหตุการณ์มาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังครับ สองเหตุนี้เป็นเหตุการที่คล้ายกันแต่ก็เกิดกับสองบริษัทที่เคยทำงานมา ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่นักบัญชี งานหลักๆ ของผมอยู่ทางด้าน Technical และ Production ด้านการผลิต แต่เมื่อแก่ขึ้นเก๋ามากขึ้นเขาก็เลยมอบตำแหน่งให้เป็นเจ้าหน้าที่ “จับฉ่าย” ประมาณว่าทำได้ทุกอย่างแต่ไม่เก่งสักอย่าง 5+ สองเหตุการณ์นี้เกิดกับบริษัทที่ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบงานบัญชีของบริษัท คือมีแค่พนักงานที่คอยออกบิลรับจ่ายเงินเข้าออกของบริษัทเท่านั้น แล้วส่งเอกสารทุกอย่างให้กับบริษัทที่รับทำบัญชีไปจัดการอีกทีหนึ่ง บริษัทแรกเป็นโรงงานรับจ้างประกอบ (Sub-Contract) ยอดขายเดือนๆ หนึ่งก็หลายล้านอยู่บางเดือนเต็มที่ก็สัก 10 ล้านได้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่ยอมที่จะมีพนักงานบัญชีเป็นของตัวเอง เดาเอาเองว่าเพราะว่าจ้างข้างนอกทำคงประหยัดได้มากกว่า แต่ก็สงสััยว่างั้นทำไมบริษัทอื่นๆ (ที่เคยทำงานมา) เขาไม่จ้างข้างนอกทำเอาอะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินใจ?  อยู่มาวันหนึ่งบริษัทโดนสรรพากรเรียกเข้าพบและพนักงานที่ได้ไปคุยมานำข่าวกลับมาแจ้งเจ้านายว่าบริษัทมีการค้างชำระเรื่องภาษี VAT และจะต้องโดนเบี้ยปรับเงินเพิ่มเป็นยอดรวมๆ ที่ต้องจ่ายก็หลายแสนบาทอยู่ เจ้านายคงตกใจและผยายามสั่งให้คนอื่นที่เกี่ยวข้อง (โดยเฉพาะบริษัทบัญชีที่รับงานไปทำ) ไปแก้ปัญหานี้แต่ก็ไม่สามารถเครียร์ปัญหาได้ สุดท้ายจึงเรียกผมให้เข้าไปจัดการ  ตอนนั้นผมก็มืดแปดด้านว่าที่ไปที่มามันเป็นอย่างไร ผมต้องหาข้อมูลจากรอบด้านเพื่อทำออกมาเป็นรายงานว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร โดยเริ่มจากฟังข้อมูลจากเจ้านายซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ปัญหาความมั่วของเจ้านายผมก็คือว่าแกทำธุกิจหลายอย่าง ดังนั้นเงินเข้าออกกระเป๋าซ้ายขวาหน้าหลังจึงมั่วไปหมด สิ่งที่แกรับรู้จากพนักงานที่เป็นเสมียนภายในบริษัทก็แค่ว่ารับเงินจากไหนเท่าไหร่และต้องจ่ายใครเท่าไหร่ แล้วหากมีรายจ่ายแกก็จะเขียนเช็คให้ แล้วก็แค่เขียนโน๊ตไว้ที่ต้นขั้วเช็คว่าเช็คใบนั้นๆ จ่ายเรื่องอะไรให้ใครไป แกบอกผมว่าแกมีหลักฐานว่าแต่ละเดือนแกได้เซ็นต์เช็คเพื่อจ่ายค่าภาษีต่างๆ ตลอดแต่ทำไมสรรพากรถึงแจ้งว่าบริษัทไม่ได้จ่ายภาษี อาจเป็นไปได้หรือไม่ที่บริษัทบัญชี หรือเจ้าหน้าที่บางคนไม่ได้นำเช็คบางงวดไปจ่ายสรรพากร (ยักยอก) นี่คือข้อมูลตั้งต้นที่ผมมี และผมก็ได้ขอต้นขั้วสมุดเช็คทุกเล่มของแกมาตรวจสอบ  จากนั้นผมได้ไปคุยกับบริษัทภายนอกที่รับทำบัญชี ซึ่งก็ให้ข้อมูลว่าในการชำระภาษีแต่ละครั้งทางบริษัทบัญชีไม่ได้เป็นผู้นำเช็คไปจ่ายสรรพากรเองทุกครั้ง บางครั้งเจ้าของบริษัทได้มอบหมายให้คนอื่นไปจ่าย […]

VAT Fraud

คำว่า “โกงภาษี” ฟังดูเป็นเรื่องใหญ่และรุนแรงและที่สำคัญคือความหมายคลุมเครือไม่ชัดเจนในรายละเอียด เพียงแค่ได้ยินก็ทำให้พิพากษาผู้กระทำไปแล้วว่าเป็นคนเลวโดยไม่สนใจจะศึกษาในรายละเอียดที่ไปที่มา  แต่หากเปลี่ยนคำเสียใหม่เป็นคำตามภาษาราชการที่ว่า “ทุจริตภาษีอากร” ผมว่ามันดูดีกว่าเยอะ เพราะทำให้คนที่ได้ยินหรือได้อ่านไม่ตกใจ และก็จะเกิดคำถามที่อยากรู้คำตอบต่อไปว่าภาษีที่ทุจริตนั้นเป็นภาษีประเภทใด และเขาทุจริตอย่างไร เพราะในโลกของการทำธุรกิจมีภาษีหลากหลายประเภท ภาษีบางประเภทรัฐบาลก็ออกกฏหมายเพื่อชี้ช่องทางให้ผู้ทำธุรกิจหรือบุคคลทั่วไปได้เสียภาษีน้อยลงเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้จ่ายภาษีซึ่งเราเรียกว่า “ลดหย่อนภาษี” และมีแนวทางเพื่อจะให้ได้ลดหย่อนได้หลายวิธีการ ซึ่งก็ไม่ผิดสำหรับผู้ที่ต้องจ่ายภาษีที่ต้องพยายามหาช่องทางให้จ่ายภาษีได้น้อยที่สุดโดยไม่ผิดกฏกติกาที่หน่วยงานรัฐวางไว้ แต่บางครั้งเมื่อมากเกินขอบเขตที่หน่วยงานรัฐวางไว้ก็กลายเป็นความผิด และความผิดนั้นก็มีหลายระดับแต่ก็แบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มคือ การหลีกเลี่ยงภาษีอากร และ การโกงภาษีอากร ตัวอย่างหนึ่งที่ผมมักจะได้ยินบ่อยๆ เวลาอ่านข่าวคือเรื่องการซื้อขายบิล VAT ซึ่งก็เข้าใจแบบเผินๆ ว่าเป็นสิ่งที่ผิด แต่ผิดอย่างไรในแง่ของการบัญชีผมไม่เข้าใจและก็ไม่ได้สนใจที่อยากจะรู้ เพราะด้วยหน้าที่การงานที่ไม่ได้อยู่ในส่วนนั้น แต่ก็มักเกิดคำถามขึ้นในใจทุกครั้งเมื่อต้องได้ไปซื้อสินค้าแล้วผู้ขายมักจะถามว่าเอาบิล VAT หรือไม่ หากเราบอกว่าเอาเขาก็จะคิดเงินค่าสินค้าโดยบวก VAT เข้าไปอีก 7% แน่นอนคนส่วนใหญ่ก็เลยจะบอกว่างั้นไม่เอาบิล VAT อย่างมากขอเป็นบิลเงินสดธรรมดาก็พอ แล้วก็จบกัน แต่มาวันหนึ่งได้เจอกับการทำงานจริงใกล้ตัวเรื่องการ “ซื้อบิล VAT” ทำให้เข้าใจเหตุและผล และมุมมองของผู้ทำธุรกิจได้ชัดเจนขึ้นจึงนำมาเล่าให้ฟัง บริษัทที่ผมเคยทำงานด้วยจดทะเบียนอยู่ในระบบ VAT ดังนั้นแต่ละเดือนจะต้องทำรายงานภาษีซื้อขายและนำส่ง VAT (VAT ขาย – VAT ซื้อ = ส่วนต่างที่ต้องนำส่งสรรพากร) แต่ละเดือนบริษัทมียอดขายหลายแสนบาท […]

28XX ถึก-ทน โฟน (เหล้าเก่าในขวดใหม่)

SLT 28XX Series

เครื่องรับโทรศัพท์ Series นี้เป็นการพัฒนามาจาก Series 26XX และ 27XX อีกทีหนึ่ง เนื่องจากต้องการลด cost ของวัตถุดิบโดยการเปลี่ยน circuit ภายในที่มีการพัฒนามากกว่า Series 26XX

27XX ถึก-ทน โฟน (ผู้อาภัพ)

SLT 27XX Series

เครื่องรับโทรศัพท์ที่พัฒนามาจาก 26XX series ซึ่งเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดด เพราะเปลี่ยน circuit ภายในทั้งหมด เช่นการใช้อุปกรณ์ IC ที่เดิมเป็น analog ไปเป็น controller และปรับรูปทรงให้มีความสวยงามทันสมัยมากขึ้น

2606 ถึก-ทน โฟน (ซ่อมยากฉิบ….)

SLT 2606

เป็นเครื่องรับโทรศัพท์ที่ซ่อมยากที่สุดของ 26XX Series เพราะเป็นรุ่นที่มี Feature มากที่สุด แผงวงจรหนาแน่นสุด (Double side pcb) และ circuit เป็นการทำงานแบบ analog เกือบทั้งหมด

2604 ถึก-ทน โฟน

SLT 2604

เครื่องรับโทรศัพท์รุ่น 2604 เป็นรุ่นที่มี Feature น่าใช้มากที่สุดของ series 26XX ส่วนรุ่นที่เหนือกว่ารุ่นนี้จะมี Feature ใกล้เคียงกันแค่ต่างกันที่จะเป็นระบบ 2 line (เครื่องเดียวแต่ใช้ได้สองหมายเลข)

2601 ถึก-ทน โฟน

SLT 2601

เครื่องรับโทรศัพท์รุ่นพื้นฐานสุดของ 26XX series คือไม่มี Feature ใดๆ เลย และเป็นระบบ DTMF เพียงอย่างเดียว (ไม่มีระบบ PULSE)

เทปม้วนแรกที่เก็บตังค์ซื้อ

ปกเทปแกรนด์เอ็กซ์

สมัยเด็กๆ ตอนเริ่มได้ยินเสียงเพลงกรอกเข้าหู ตอนนั้นจำได้ว่าวันเสาร์หรืออาทิตย์มักชอบไปเที่ยวบ้านยายซึ่งเป็นบ้านสวนอยู่ริมคลองแสนแสบ บ้านสวนริมคลองแสนสนุก เพราะได้กระโดดน้ำเล่นกับเพื่อนๆ แทบทั้งวัน พอเย็นก็วิ่งเล่นในสวนหรือกลางทุ่งนา บางทียายก็ใช้ให้จูงวัวกลับเข้าคอก (จริงๆ ก็ไม่ชอบนะ เพราะผมยังตัวเล็ก วัวมันชอบวิ่งไล่ผม55+) เวลาอยู่ในบ้านมักได้ยินน้าๆ เปิดวิทยุฟังพวกนิยายหรือไม่ก็รายการเพลง และจากนักร้องยุคนั้นก็ประมาณคุณ สุเทพ วงศ์กำแหง, ชรินทร์ นันทนาคร และอีกหลายๆ ท่าน แต่มีเพลงบางเพลงที่ติดอยู่ในหูผมจนทุกวันนี้ก็เช่นเพลง “ลูกสาวพ่อขุน” ของคุณ ธานินทร์ อินทรเทพ (จำจนร้องได้ตั้งแต่ยังเด็กๆ) และก็เพลง “อุ๊ยคำ” ของคุณ จรัล มโนเพ็ชร มันคงจะดังมากเพราะได้ยินแทปทุกวัน พอผมเริ่มเรียนมัธยมต้น ก็เริ่มคุ้นหูกับเพลงของ พิ้งค์แพนเตอร์, ดอกไม้ป่า, แกรนด์เอ็กซ์, รอยัลสไปร์ท แต่ก็ยังไม่ถึงเรียกว่าชอบหรือติดตามเป็นนักฟังเพลงมากนัก พอเริ่มเข้าเรียน ปวช. ในปี 2527 ตอนนี้เริ่มจะติดตามฟังเพลงละ เริ่มชอบวงชาตรี, รวมดาว, 18 กะรัต, ดิอินโนเซ้นต์, ฟรีเบิร์ด, เรนโบว์ และอื่นๆ เรียกว่าเริ่มติดตาม แต่สมัยนั้นก็ยังไม่มีปัญญาหาซื้อเทปเพลงมาฟังเองหรอกนะครับเพราะได้เงินไปโรงเรียนวันละ […]

ม้วนเทปจิ๋วเก่าจากกรุ

Micro Casset Tape

ค้นกรุเก่าๆ ที่เก็บของกระจุกกระจิกที่ไม่ได้ใชงานออกมาสังคายนาเจอม้วนเทปเก่าๆ เลยเอามาลงให้ดูเล่นครับ ม้วนเทปคาสเซ็ทที่เห็นในรูปไม่ใช่ขนาดมาตรฐานทั่วไปที่ใช้กันในท้องตลาดชาติที่แล้ว แต่มันเป็นขนาดที่เรียกว่า Micro Cassette มีใช้กับพวกอุปกรณ์เครื่องเล่นชนิดพิเศษ เทปม้วนนี้ผมเก็บมาจากกองขยะของโรงงานสมัยทำงานเป็นช่างอยู่โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตอุปกรณ์เครื่องรับโทรศัพท์และตู้ชุมสาย (PABX) ม้วนเทปพวกนี้เอาไว้ใช้สำหรับบันทึกเสียงของเครื่องตอบรับโทรศัพท์สมัยก่อน (ก่อนที่จะวิวัฒนาการเปลี่ยนไปเป็นระบบการบันทึกเสียงลงบนตัว IC Memory Chip) การทำงานของเครื่องตอบรับโทรศัพท์สมัยก่อน จะควบคุมด้วย Micro-controller ซึ่งถือว่าล้ำสมัยเมื่อเทียบกับวงจรของเครื่องโทรศัพท์ธรรมดาที่ถูกออกแบบด้วย IC ที่มีฟังชั่นการทำงานเฉพาะเช่น Dialer IC, Speech IC แต่สิ่งหนึ่งที่ความสามารถของการออกแบบวงจรและศักยภาพของ Chip MCU ยังทำไม่ได้ (หรือทำได้แต่อาจทำให้ต้นทุนการผลิตและขายสูงจนเกินไป) จึงใช้วิธีการบันทึกเสียงเป็น Analog ลงบนเส้นเทปแม่เหล็กโดยตรง ซึ่งทำให้มีข้อด้อยทางด้านเทคนิคหลายอย่างเช่น ปัจจุบันคงไม่มีม้วนเทปคาสเซ็ทแบบนี้ให้เห็นในเครื่องใช้ต่างๆ ในท้องตลาดอีกแล้ว เพราะเปลี่ยนไปใช้หน่วยความจำที่เป็น Chip IC แทนกันหมด และจริงๆ เครื่องโทรศัพท์ตามบ้านที่บันทึกเสียงฝากข้อความได้ก็ไม่ค่อยเห็นมีวางขายกันเท่าไหร่ เพราะระบบฝากข้อความได้ถูกเอาไปเป็น Feature หนึ่งของระบบมือถือไปแล้วด้วยเช่นกัน

Get in Touch !