
2601 ถึก-ทน โฟน
เครื่องรับโทรศัพท์รุ่นพื้นฐานสุดของ 26XX series คือไม่มี Feature ใดๆ เลย และเป็นระบบ DTMF เพียงอย่างเดียว (ไม่มีระบบ PULSE)
เครื่องรับโทรศัพท์รุ่นพื้นฐานสุดของ 26XX series คือไม่มี Feature ใดๆ เลย และเป็นระบบ DTMF เพียงอย่างเดียว (ไม่มีระบบ PULSE)
ครั้งแรกของการทำงานโรงงานหลังจากเรียนจบ ปวส. อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ของโรงงานที่ผลิตเป็นรุ่นแรกๆ คือเครื่องรับโทรศัพท์รุ่น GTE/STARPLUS 2500, 2554, 2384
สมัยเด็กๆ ตอนเริ่มได้ยินเสียงเพลงกรอกเข้าหู ตอนนั้นจำได้ว่าวันเสาร์หรืออาทิตย์มักชอบไปเที่ยวบ้านยายซึ่งเป็นบ้านสวนอยู่ริมคลองแสนแสบ บ้านสวนริมคลองแสนสนุก เพราะได้กระโดดน้ำเล่นกับเพื่อนๆ แทบทั้งวัน พอเย็นก็วิ่งเล่นในสวนหรือกลางทุ่งนา บางทียายก็ใช้ให้จูงวัวกลับเข้าคอก (จริงๆ ก็ไม่ชอบนะ เพราะผมยังตัวเล็ก วัวมันชอบวิ่งไล่ผม55+) เวลาอยู่ในบ้านมักได้ยินน้าๆ เปิดวิทยุฟังพวกนิยายหรือไม่ก็รายการเพลง และจากนักร้องยุคนั้นก็ประมาณคุณ
เคยฟังเพลงนี้ครั้งแรกที่ขับร้องโดยคุณ พรศุลี วิชเวช จากการออกรายการทีวี และฟังจากม้วนเทป หรือครั้งที่ผมเคยไปดูการแสดงของวงสุนทราภรณ์ ที่แสดงมาแสดงเป็นประจำที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ เวลาได้ยินเพลงนี้ก็จะนึกถึงคุณ พรศุลี เหมือนกับว่าเป็นเพลงเอกหรือเพลงประจำของเขาไปเลย แต่พอได้ศึกษาประวัติของเพลงนี้ พบว่าผู้ที่ขับร้องมาก่อนหน้าก็มีคุณ ประภาศรี นรินทรกุล
รู้จักเพลงนี้ครั้งแรกเมื่อตอนที่คุณ แจ้ ดนุพล นำมาขับร้องและทำดนตรีใหม่ หากจำไม่ผิดน่าจะในเทปชุด “แจ้ลายไทย” และก็อีกครั้งในเวอร์ชั่นของคุณ เทห์ อุเทน พรหมมินทร์ ซึ่งน่าจะอยู่ในอัลบั้ม “แกรมมี่โกลด์ สุนทราภรณ์” ไพเราะทั้งสองเวอร์ชั่น และพอได้ค้นหาประวัติของเพลงก็พบว่าเป็นเพลงที่นำมาจากเพลงไทยเดิมชื่อ
ครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้เป็นปี พ.ศ. 2530 ตอนที่กำลังเรียนชั้น ปวส.1 อยู่ ปกติด้วยเป็นคนที่ชอบนอนดึกเที่ยงคืนตีหนึ่งอยู่แล้วเพราะชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงจากรายการวิทยุ สมัยนั้นรายการวิทยุรายการหนึ่งที่ผมชื่นชอบมากชื่อ “เพลงไทยคุณขอมา” ของดีเจ ศิริชัย เลิศวิริยะชัย น่าจะอยู่ที่คลื่น FM93Mz เวลาของการจัดรายการแบ่งเป็นหลายช่วงตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเที่ยงคืนได้
พอดีเมื่อปีก่อนที่บ้านทำบุญบ้านแล้วเห็นเขาวางเรียงซ้อนถาดขนมไว้แล้วดูสวยดีเลยถ่ายเก็บไว้ดูเล่นเพราะนึกถึงตอนเด็กๆ ที่มีส่วนร่วมในขั้นตอนการทำขนมไทยๆ พวกนี้ สมัยนี้เวลาทำบุญผมไม่ค่อยเห็นแล้วว่าบ้านงานหรือเจ้าภาพจะทำขนมเอง ส่วนมากจะซื้อสำเร็จรูปเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่บ้านผมเองยังทำเองบ้างบางรายการและซื้อสำเร็จรูปบ้างจากตลาด แต่นึกถึงตอนเป็นเด็กๆ ไม่ว่าที่บ้านหรือบ้านยายและละแวกบ้านเวลามีงานบุญผมเป็นเด็กๆ ก็จะได้ไปวิ่งเล่นในงาน สมัยก่อนหากเป็นงานใหญ่ๆ เช่นงานแต่งงานเขาจะมีการเตรียมงานกันหลายวัน เช่นจะได้ยินเขาพูดกันว่า วันงาน วันแห่ วันสุกดิบ
ปกติเวลาผ่านไปเจองานอาคารสถานที่ที่ออกแบบได้ถูกใจก็มักจะถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วมีครั้งนึงได้ไปธุระที่สรรพากรแถวสวนสยาม ตัวอาคารหลักของสรรพากรก็เป็นตึกธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ได้เดินไปด้านหลังอาคารเพื่อผ่านไปลานจอดรถ ได้เห็นเขาเอาตู้คอนเทนเนอร์มาสร้างเป็นเหมือนออฟฟิตหลบไว้ด้านหลังอาคาร (แต่มองเข้าไปข้างในลึกๆ เหมือนจะเป็นที่เก็บเอกสารมากกว่า) ปกติที่เคยเห็นที่อื่นๆ ก็มักจะเอามาทำดัดแปลงเป็นพวกออฟฟิตก่อสร้างชั่วคราว หรือร้านอาหารเก๋ๆ ซึ่งที่เจอๆ มาก็จำเจปกติทั่วไป แต่ไม่เคยเห็นของจริงที่เขาเอามาต่อเป็นสามชั้นและออกแบบส่วนประกอบเช่นพวกหลังคา บันได
ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกจำได้ว่าน่าจะตอนเรียนอยู่มัธยมต้น ช่วงปี 2524-2526 ตอนนั้นยังเด็กนักและยังไม่ได้หลงไหลไปกับการฟังเพลงเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเพลงนี้มันอยู่ในความทรงจำมาตลอด และก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากนั้นได้มีผู้อื่นนำมาขับร้องอีกหรือไม่ และจากการค้นหาประวัติเพลงทำให้ทราบว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ครู สุรัฐ พุกกะเวส ตั้งใจแต่งให้คุณ อุษา พุกกะเวส ภรรยา และเมื่อครูเอื้อ ได้แต่งทำนองแล้วนำมาขับร้องก็ทำให้เพลงนี้โด่งดังมาก
การประกวดวงโยธวาทิตจากอดีตถึงปัจจุบันจากมุมมองของคนวงนอก ไม่รู้ว่าในที่นี้มีใครรู้จัก เคยดูหรือมีส่วนร่วมกับกิจกรรมวงโยธวาทิตกันบ้างหรือไม่? ผมเป็นคนนึงที่ชอบดูประกวดวงโยธวาทิตเป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าได้ว่า วงโยธวาทิต มันฝังอยู่ในปฎิทินสมองของผมไปแล้ว หากจำไม่ผิดการประกวดวงโยธวาทิตเริ่มมีมาครั้งแรกน่าจะ พ.ศ. 2524 ซึ่งตอนนั้นผมน่าจะกำลังเรียนอยู่ ม.1 รร. แถวๆบางกะปิ ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างเป็นบ้านนอกของ
“Who makes no mistakes does not usually make anything.”