ASTM F2100-11, Test Standard

ตัวอย่างมาตรฐาน ประสิทธิภาพหน้ากากอนามัยทางการแพย์ใช้ครั้งเดียวชนิด N95 ที่ยอมรับตามประกาศของสำนักงานอาหารและยา (พ.ศ.2563)
MCS-51 VS Z80 ความแตกต่างที่ต้องพิสูจน์

คนที่สนใจด้าน Single board microprocessor หรือ microcontroller แต่ก่อนจะรู้จัก Z80 ซึ่งเป็น CPU และ MCS-51 (หรือที่เก่ากว่า MCS-51 ก็เช่น 8048) เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบัน CPU และ MCU ทั้งสองกลุ่มนี้ได้หมดความนิยมไปแล้ว และถูกแทนที่ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ไม่ดูแลคนให้ดีแล้วงานจะดีไปได้อย่างไร!

องค์กรที่ดีเป็นอย่างไร? ผมเองเรียนจบช่างเถอะ ไม่ได้จบสายบริหาร (มาเรียนบริหารก็ตอนแก่แดดแก่ลมแล้ว) เวลานั่งเรียนฟังอาจารย์บรรยาย หรือไม่ว่าจะจากการอ่านตำราเองก็มักจะมีคำถามในใจว่าความรู้ภาคทฤษฎีมันช่างสวยหรู แต่ในชีวิตการทำงานจริงผมแทบจะไม่เจอหลักการเหล่านี้กับชีวิตการทำงานที่ผ่านมาเลย หรือว่าเราไม่เคยทำงานกับองค์กรใหญ่ๆ ที่ให้ความสำคัญกับงาน HR ก็ไม่รู้ ตอนเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ อายุเพิ่งจะ 20 ผมเคยเป็นหัวโจกนำการประท้วงของพนักงานโรงงานกับฝ่ายบุคคล แต่จริงๆ ตอนนั้นก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายหรอก มีคนอื่นอยู่เบื้องหลังคอยเชียร์ให้ผมเป็นทัพหน้าอีกที55+ เพียงเพราะว่าเราเห็นความไม่ยุติธรรมของการบริหารงานของฝ่ายบุคคล ความรู้สึกตอนนั้นผมมีความรู้สึกว่าหน้าที่ของฝ่ายบุคคลคือทำหน้าที่เพียงเก็บบันทึกข้อมูลขาดลามาสายคำนวนค่าแรงจัดคิวรถรับส่งและเป็นหน้าหน้า รปภ.อะไรแค่นั้น แต่ไม่ได้ดูแลหรือรับฟังเสียงเรียกร้องจากพนักงานเลย เมื่อมีปัญหาก็ได้แต่พูดว่าผู้บริหารสั่งมา หรือผู้บริหารไม่อนุมัติ อะไรๆ ทำนองนั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วฝ่ายบุคคลได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารให้กับผู้บริหารให้จริงหรือเปล่า เปลี่ยนงานมาสามสี่ที่ไม่ว่าบริษัทจะเล็กหรือใหญ่ก็ไม่เคยเจอการทำงานของ HR บริษัทไหนที่ทำให้มีความประทับใจได้เลย แต่พอเราโตขึ้นและตัวเองได้มีโอกาสต้องเข้าไปทำงานด้าน HR เองก็คิดว่าพอจะมีความเข้าใจงานเหล่านี้มากขึ้นแต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานเหล่านี้ มีครั้งนึงได้มีโอกาส Set-up บริษัทเปิดใหม่แห่งหนึ่งซึ่งผมทำงานให้ตั้งแต่การเป็นพนักงานคนแรกๆ ของบริษัท ทำกันตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้ง หาซื้อที่ดิน สร้างโรงงาน นำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ เขียนโครงการขอรับการส่งเสริมจากรัฐบาล (BOI) ขอเงินกู้จากธนาคารในประเทศ และกระทั้งสรรหาบุคลากรให้กับบริษัท ปัญหาหนักใจที่ทำให้เบื่อกับการทำงาน โดยเฉพาอย่างยิ่งกับบริษัทต่างชาติก็คือเขามักจะใช้นโยบาย 2 ประการหลักในการบริหารคือ 1. นโยบายการบริหารแบบ Top-Down คือฟังคำสั่งจากเบื้องบนลงมาอย่างเดียวโดยไม่รับฟังเสียงจากพนักงานระดับล่าง […]
A to D, Recording to magnetic tape

ปี 2528 ผมเรียนอยู่ ปวช.ปี2 ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ที่วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ขอบๆ กรุงเทพ ผมมีเพื่อนสนิทคนนึงเขาเอาบัตร ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ มาอวดให้เพื่อนในห้องเรียนดูกัน มันเป็นอะไรที่โคตรเท่ห์เลย เพราะสมัยนั้นธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารแห่งแรกที่นำตู้เอทีเอ็มมาติดตั้งที่ศูนย์การค้าสยาม (น่าจะปี 2526) มันเป็นเรื่องไกลตัวที่คนธรรมดาๆ จะมีบัตรเอทีเอ็มใช้งาน (จะเปิดบัญชีธนาคารยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวเลย ยิ่งไม่ได้เป็นคนทำงานมีเงินเดือนยิ่งแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีบัญชีธนาคารไปทำไม) ได้เห็นเพื่อนมีผมก็อยากมีบ้าง ณ.ตอนนั้นธนาคารกสิกรกับธนาคารกรุงเทพเริ่มเอาเครื่องมาติดตั้งตามสาขาใหญ่ๆ กันบ้างแล้ว แต่ไม่ใช่จะไปขอสมัครทำบัตรกันง่ายๆ นะครับ ผมไปสมัครขอทำบัตร ATM กับธนาคารกรุงเทพ เจ้าหน้าที่เขาถามผมว่าจะทำบัตร ATM เพื่อเอาไปทำไม? ผมตอบคำถามเขาไม่ถูกเลยว่าจะมีบัตรเพื่อไปทำอะไร และก็เลยสรุปว่าไม่ได้ทำ จนวันหลังต่อมาได้ไปสมัครของธนาคารกสิกร และก็สมัครผ่านมีบัตรมาอวดเพื่อนๆ เป็นรายที่สองในห้องเรียน55+ (มีแต่บัตร แต่น่าจะมีเงินในบัญชีไม่เกิน 500 บาท) นั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจอยากเรียนรู้ทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ อยากรู้ว่ามันทำงานอย่างไร กอรปกับผมได้เรียนสาขาอิเล็กทรอนิกส์ด้วย ผมจึงวางแผนไว้ว่าผมอยากทำโครงงานเครื่องอ่านเขียนข้อมูลลงบัตรแถบแม่เหล็กไว้ส่งอาจารย์สำหรับโปรเจ็คเมื่อตอนเรียน ปวส. ความรู้สมัยนั้นหาได้ยากเหลือเกิน แหล่งเดียวที่อาจจะมีความรู้เรื่องเหล่านี้มาให้อ่านได้บ้างก็จากหนังสือวารสารอิเล็กทรอนิคส์เซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งแทบจะไม่เคยนำข้อมูลความรู็เรื่องเหล่านี้มาลงเป็นบทความให้ศึกษา จนผมเรียนจบ โครงงานส่งอาจารย์ที่ผมอยากจะทำไม่สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ก็สำเร็จได้สัก 40~50% ของที่คาดหวังได้ แต่ก็ได้เกรด […]
Costs Concepts

เมื่อก่อนคิดว่าเรื่องวิชาการบัญชีเป็นสิ่งที่ง่ายๆ มีแต่บวกลบคูณหาร ไม่น่ามีอะไรยากกว่าการเรียนสายวิศวกรรมที่ต้องมีพื้นฐานคณิตศาสตร์ชั้นสูง ตอนผมจบปวส.อิเล็กทรอนิกส์ แล้วทำงานและลงเรียน ป.ตรี ภาคค่ำไปด้วยทางสาขาการจัดการอุตสาหกรรม ต้องมีลงเรียนวิชาบัญชีอยู่ 4 ตัว และตัวสุดท้ายคือบัญชีบริหาร ทำให้พอจะเข้าใจได้ว่าความรู้เรื่องการบัญชีว่าแบ่งชนิดประเภทออกไปหลายแขนง แต่เท่าที่ผมพอจะต้องรู้จากหลักสูตรการเรียนก็มี 3 แขนงคือ จากทั้งสามหัวข้อที่เรียนผ่านมาอย่างทุลักทุเล (เด็กช่างมาเรียนบัญชี คงจะมีคนชอบหรอกมั๊ง5+) สิบกว่าปีผ่านมายังแทบจะไม่เคยนำมันมาใช้ในการทำงาน แต่ก็พอจะทำให้ไปคุยกับเพื่อนร่วมงานต่างแผนกที่อยู่ฝ่ายบัญชีแล้วทำให้เราเข้าใจสิ่งที่เขาอธิบายอะไรๆ ต่างๆ ที่เกี่ยวกับในงานที่ทำได้ง่ายขึ้น (โดยไม่โต้แย้งในใจ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องความจำเป็นที่ต้องมีการเช็คสต๊อคประจำปีในโรงงานว่ามันจำเป็นอย่างไร (เป็นงานที่น่าเบื่อมาก เพราะโดนเป็นหัวหน้าทีมในการตรวจ Approve รายการวัตถุดิบทุกปี (จำนวนรายการวัตถุดิบที่เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีเป็นพันรายการ)) คนที่โดนสั่งให้ทำก็โดนกับคนเดิมๆ พวกหัวหน้า หรือ ผจก.ไม่เคยจะลงมาลุยด้หน้างานด้วย นานๆ ถึงจะเดินมาให้กำลังใจ นิดๆ หน่อยๆ แล้วก็เข้าไปนั่งโต๊ะทำงานห้องแอร์ ขอบ่นหน่อย55+) สำหรับผมพอทำงานมาจนนานวันและต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นก็ทำให้ต้องมีส่วนเข้ามาพัวพันกับงานด้านบัญชี แต่แน่นอนเพราะเราไม่ได้เรียนจบมาเป็นนักบัญชี ดังนั้นจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องลงไปนั่งทำบัญชีเองเหมือนเจ้าหน้าที่ที่เขาเรียนมาและเข้ามาทำงานตำแหน่งนั้นๆ โดยตรง แต่เรื่องของการบัญชีบริหารต่างหากที่มันจะเริ่มเข้ามวนเวียนให้เราต้องศึกษาหาความรู้เพื่อนำมาตัดสินใจหรือแสดงความคิดเห็นกับผู้บริหาร อาศัยที่ว่ามีพื้นฐานที่เรียนมาบ้าง ดังนั้นเมื่อต้องพูดคุยกับใครก็เลยทำให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น ส่วนเรื่องการบัญชีต้นทุน ผมว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวผมมาก ตอนเรียนบอกได้เลยว่าตอนที่เขาสอนแยกเป็นหัวข้อๆ ประเภทของต้นทุนก็ดูเหมือนจะไม่เห็นมีอะไรยาก แต่พอเจอโจทย์เพื่อให้ทำการวิเคราะห์ปัญหา ทำไม่เสร็จสมบูรณ์สักข้อ5+ แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเมื่อทำงานคงไม่ได้เจอะเจอกับมันหรอก จนมาวันหนึ่งก็หนีมันไม่พ้นจนได้ […]
What is the importance of Cost Accounting?

จริงๆ ในชีวิตการทำงานที่ผ่านมาก็ให้มีเรื่องต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับระบบบัญชีของบริษัทมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่เหตุการ จำได้ว่าสมัยเรียน ป.ตรี ก็ต้องเรียนบัญชีทั้งหมด 4 ตัว เริ่มจากบัญชีเบื้องต้น จนจบที่บัญชีบริหารเป็นตัวสุดท้าย จำได้แม่นว่าในจำนวนครั้งที่มีการสอบผมเคยทำข้อสอบแบบจบข้อและได้คำตอบที่ถูกต้องเป๊ะๆ อยุ่ครั้งเดียวคือเรื่องการทำงบกระทบยอด นอกนั้นสอบกี่ครั้งก็ไม่เคยทำข้อสอบได้จบครบขั้นตอนสักข้อ55+ แถมจบมาก็ไม่เคยเลยที่ต้องนำความรู้เรื่องบัญชีมาใช้กับการทำงาน จนกระทั้งผ่านมาเกือบสิบปีเรื่องการบัญชีเริ่มคลืบคลานเข้ามาเกี่ยวข้องทีละน้อยทีละน้อย เพราะด้วยหน้าที่ที่ต้องเข้าไปแก้ปัญหาให้กับบริษัท เริ่มจากปัญหาเรื่องภาษี บางครั้งต้องไปนั่งคุยถกเถียงเรื่องการคิด Vat หรือปัญหาการออกบิลส่งของแล้วค่อยรวบยอดออกใบกำกับภาษีรวบยอดเมื่อหมดเดือนแล้วเกิดปัญหากับฝ่ายบัญชีของลูกค้า หรือบางครั้งต้องไปนั่งคุยหาสาเหตุกับเจ้าหน้าที่สรรพากรเนื่องจากต้องโดนปรับภาษีจำนวนหลายๆ แสน จึงทำให้ต้องหยิบตำราเก่าๆ ที่เคยเรียนมาหาข้อมูล รวมทั้งขอคำปรึกษากับเพื่อนๆพี่ๆ ฝ่ายบัญของบริษัทที่เคยทำงานร่วมกันมา หากใครเรียนทางด้านบัญชีมาก็คงจะรู้ว่าระบบงานการบัญชีแบ่งออกเป็นแขนงต่างๆ ได้ 3 ประเภท ((หรืออาจมีมากกว่านี้รึป่าว จำไม่ได้ละ5+) คือ บัญชีการเงินเป็นพื้นฐานของระบบงานบัญชีและมีระบบมาตรฐานที่คอยควบคุมบังคับเพื่อความน่าเชื่อถือ ข้อมูลรายงานต่างๆ จะต้องส่งต่อให้กับหน่วยงานรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องและมีส่วนได้ส่วนเสียเช่น หุ้นส่วน, เจ้าของ หรือผู้ลงทุน ฯลฯ ส่วนการบัญชีต้นทุนและบัญชีบริหาร เท่าที่ผมทราบคือจะไม่มีข้อบังคับหรือรายงานที่จะต้องส่งหรือเชื่อมโยงกับหน่วยงานภายนอก (รัฐบาล) แต่กลับมีความสำคัญกับการใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารกิจการภายในขององค์กรเองเป็นอย่างมาก สำหรับการบัญชีบริหาร คือไม่ว่าจะเป็นกิจการที่ซื้อมาขายไปหรือกิจการที่เป็นโรงงานผลิตจะต้องมีการวิเคราะห์รายงานข้อมูลให้กับผู้บริหารเพื่อตัดสินใจ ส่วนการบัญชีต้นทุนดูอาจจะไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่สำหรับธุรกิจแบบซื้อมาขายไป (จะใช้คำว่าไม่จำเป็นก็คงจะไม่ถูก จำเป็นมากน้อยน่าจะขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของธุรกิจนั้นๆ มากกว่า) แต่สำหรับธุรกิจที่เป็นโรงงานผลิตสินค้านั้น การบัญชีต้นทุนมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยทำให้เกิดการวิเคราะห์ต้นทุนของผลิตภัณฑ์ที่ผลิต เพื่อนำไปสู่การวางแผนเชิงกลยุทธ์และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าการบันทึกบัญชีต้นทุนและการบัญชีการเงินจะสัมพันธ์กันแต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน […]
Why do companies need HR?

ครั้งหนึ่งที่เคยร่วมงานเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหารของบริษัทแห่งหนึ่ง เรื่องที่จะเล่าอาจจะไม่เกี่ยวโดยตรงกับหัวเรื่องเท่าไหร่แต่เดี๋ยวจะผยายามดึงให้มันมาเกี่ยวกันละกัน5+ มีอยู่วันหนึ่งมีนัดพาเจ้านายไปดูเครื่องจักรที่ต้องการซื้อยังโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนของพวกรถแบคโฮ รถไถ ฯลฯ เผอิญว่าโรงงานนี้เขาใช้เครื่องจักรตัวเดียวกับที่เจ้านายผมสนใจต้องการซื้ออยู่ เซลล์ของเครื่องจักรเขาเลยพาเข้าไปขอดูที่โรงงานแห่งนี้ ก็เดินดูการทำงานของเครื่องและโน่นนี่นั่นในโรงงานไปสักพัก เจ้านายก็ดูพวกชิ้นงานที่โรงงานนี้เขาผลิตไปด้วย มีชิ้นงานอยู่ตัวหนึ่งซึ่งเป็นกระบวยตักดินของรถขุด (คงนึกภาพออกนะครับ) มันมีการทำวงกลมด้วยปากกาสี (น่าจะเป็นชนิดที่ลบได้) เจ้านายผมถามเจ้าหน้าที่ของโรงงานที่พาเดินชมว่าวงสีไว้ทำไม เจ้าหน้าที่ตอบว่าเนื่องจากมันเป็นชิ้นงานที่มีตำหนิเกี่ยวกับการทำสีที่ไม่เรียบร้อยและไม่ผ่าน QC คือฟังแล้วก็งงๆ ว่ามันไม่เรียบร้อยตรงไหน เพราะด้วยสายตาที่มองผ่านๆ ของผมนั้นแทบจะไม่เห็นข้อบกพร่องอะไรเลย จนต้องก้มตัวลงมองเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นว่ามันมีเหมือนตุ่มสีเล็กๆ (ขอย้ำว่าเล็กๆ นิดเดียว) บนผิวของชิ้นงาน ซึ่งแค่นั้นเขาก็ไม่ให้ผ่านและทำตำหนิไว้เพื่อรอการแก้ไข ตอนที่พวกเขากำลังดูและพูดคุยเกี่ยวกับชิ้นงานที่มีตำหนินั้นกันอยู่ผมไม่ได้อยู่ในบริเวณนั้นด้วยหรอก (เดินดูตรงที่อื่นๆ อยู่) เจ้านายตะโกนเรียกผมเข้าไปหา แล้วชี้สิ่งที่เกิดขึ้นให้ดูและบอกผมประมาณว่า “อีกหน่อยเมื่อเราเปิดโรงงานของเรา จะต้องควบคุมคุณภาพให้ได้ระดับเดียวกับที่เขาทำ” ผมฟังแล้วก็คิดในใจว่ามันต้องขนาดนี้เลยเหรอ นี่มันแค่กระบวยตักดิน อะไรจะต้องถึงขนาดนี้ คือหากเป็นพวกสินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านที่หรูหราก็ว่าไปอย่าง ก็ได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็ครับๆ ผ่านๆไป จนมาวันนึงที่โรงงานเริ่มเปิดดำเนินการ สิ่งที่ผมเห็นความใสใจในรายละเอียดของผู้บริหารบางอย่างก็คือ เช่น จากตัวอย่างที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารมีความใส่ใจในรายละเอียด และฟังเสียงของพนักงานทุกระดับ แต่น่าเสียดายหลังจากนั้นไม่นานแกได้เสียชีวิตไป และเปลี่ยนผู้บริหารท่านอื่นมาบริหารแทน แต่สิ่งที่ผู้บริหารเดิมได้เคยทำไว้ก็ได้หายจากไปไม่มีอีกแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้บริหารที่มาใหม่ไม่ได้ใส่ใจพนักงานนะครับ เพียงแต่ว่าวิธีการอาจจะแตกต่างสไตล์กันไป สิ่งที่น่าเสียดายอีกอย่างหนึ่งของบริษัทนั้นคือ บริษัทไม่มีหัวหน้าฝ่ายบุคคล จะมีก็แต่พนักงานระดับปฎิบัติการธรรมดาที่จัดเก็บบันทึกข้อมูลขาดลามาสายและงาน Routine ทั่วๆ […]
Productivity VS Efficiency

ทำงานโรงงานมาจนหัวหงอก และก็ต้องอยู่กับงานเรื่องการปรับปรุง ปรับปรุง และก็ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และยิ่งๆ ขึ้นอยู่ตลอดเวลา เวลาเข้าประชุมก็มักได้ยินผู้บริหารพูดถึงคำว่า Productivity, Quality, Cost และบลาๆๆๆ จนเมื่อบางครั้งที่เราต้องทำรายงานหรือเขียนโครงการนำเสนอในที่ประชุมก็ต้องนำคำพวกนี้มาใช้เอง คำที่มักได้ยินกันจนชินหูแต่ก็ไม่แน่ใจว่าเราเข้าใจความหมายของมันถูกต้องอย่างที่มันควรจะสื่อหรือไม่ บางครั้งเหมือนจะเข้าใจแต่พอใช้ไปใช้มากลับมานั่งคิดก็งงๆ เองเหมือนกัน เช่นคำว่า Productivity (ผลิตภาพ, ความสามารถในการผลิต) กับคำว่า Efficiency (ประสิทธิภาพ, ประสิทธิผล) ที่อยากเอามาเปรียบเทียบขยายความให้ฟัง คำสองคำนี้หากไปเปิดดูความหมายจากดิกชันนารีอังกฤษ-ไทย ก็ได้ความความสั้นๆ เหมือนไม่เห็นจะมีปัญหาใด แต่หากไปเปิดดูคำอธิบายจากดิกชันนารีฉบับอังกฤษ-อังกฤษ ก็อาจจะได้คำอธิบายความหมายที่ยาวมากขึ้น แต่การที่จะเข้าใจความหมายของมันอย่างถ่องแท้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นได้เจอะเจอหรือต้องนำคำสองคำนี้ไปใช้ในงานจริงๆ ในแขนงต่างๆ มากน้อยแค่ไหนด้วย ในงานโรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต คำสองคำนี้ถูกนำมาใช้เป็นตัววัดของการเพิ่มผลผลิตด้วยแนวคิดเรื่อง “ประสิทธิภาพ” และ “ประสิทธิผล” ซึ่งฟังแล้วมันคือเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ขออธิบายดังนี้ครับ คำว่า “Efficiency หรือ ประสิทธิผล” หมายถึง ระดับความสำเร็จของวัตถุประสงค์ โดยทั่วไปจะใช้เพื่อพิจารณาผลิตผลซึ่งครอบคลุมองค์ประกอบต่างๆ เช่นว่า ความสามารถในการสนองความต้องการของลูกค้า เช่น คุณภาพ, ประมาณ, ความสะอาด, ความสะดวกสบาย, มารยาทการให้บริการ, […]
แมงกินเงิน 3 ตัว

ผมไม่ใช่นักบัญชีแต่ก็เคยได้เรียนบัญชีมาสมัยเรียน ป.ตรี การจัดการอุตสาหกรรม เรียนบัญชีมา 4 ตัว บัญชีตัวสุดท้ายคือบัญชีบริหาร เรียนมามากมายแต่เมื่อในหน้าที่การทำงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ลืมและส่งคืนอาจารย์หมด จนเมื่อการงานที่ทำต้องมีความเกี่ยวข้องกับเงินๆทองๆ ของบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เคยเรียนก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมาในความทรงจำ และทำให้ต้องกลับไปค้นหาความรู้เดิมกลับขึ้นมาใช้งาน เวลาได้ยินคนพูดว่าค้าขายดีมีกำไรแต่ไม่เหลือเงินสดอยู่ในมือ สำหรับผมคนไม่เคยทำธุรกิจเวลาได้ยินเขาพูดก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร เพราะประสบการณ์ในการทำงานมากว่า 30ปี ส่วนใหญ่ก็จะสาละวนอยู่กับงานด้านเทคนิคอลเสียเป็นส่วนใหญ่ อยู่มาวันหนึ่งเมื่อต้องมาบริหารงานให้กับบริษัท Sub-Contact เล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งมีเงินลงทุนสักระดับสิบล้านโดยประมาณ และต้องมารับรู้รายรับรายจ่ายของบริษัท วันดีคืนดีเงินในบริษัทไม่พอใช้จ่ายก็ต้องวิ่งโร่ไปขอให้ลูกค้าชำระเงินค่าสินค้าให้เร็วกว่ากำหนด (บ่อย5+) บางเดือนก็หนักถึงขนาดต้องควักเงินตัวเองเป็นแสนเพื่อจ่ายเงินเดือนให้พนักงานไปก่อน ทำให้เริ่มสงสัยว่าจริงๆ แล้วบริษัทค้าขายมีกำไรหรือไม่ หากมีกำไรแล้วกำไรหายไปไหนหมด และหากไม่มีทำไมเจ้าของเขายังทนทำมันมากว่าสิบปี (ทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม คือชักหน้าไม่ถึงหลัง) หรือว่าเจ้าของเขาจงใจเล่นแร่แปรธาตุให้ผลประกอบการมันลุ่มๆ ดอนๆ ไปแบบนี้? พอต่อมาได้มาทำงานให้กับบริษัทอื่นที่ใช้เงินลงทุนระดับร้อยล้าน ก็ยังเจอปัญหาเรื่องการเงินแบบชักหน้าไม่ถึงหลังคล้ายๆ กัน ซึ่งตอนนี้ผมต้องมาดูแลและรับรู้การเงินและระบบการทำบัญชีของบริษัทด้วย ต้องติดต่อพูดคุยกับสถาบันการเงินเพื่อขอเงินกู้และต้องสามารถอธิบายที่ไปที่มาของเงินที่ไหลเวียนเข้าออกในบริษัทได้ ทำให้เริ่มเข้าใจคำว่า “ค้าขายดีมีกำไรแต่ไม่เหลือเงินสด” ชัดเจนมากขึ้น ผลประกอบการของบริษัทเมื่อดูจากงบการเงินมีกำไรปีละประมาณยี่สิบกว่าล้านได้ แต่กลับมีเงินสดในธนาคารแค่สามสี่ล้าน ผมเริ่มสงสัยว่าแล้วกำไรที่แท้จริงมันหายไปอยู่ที่ไหน จนต้องไปเปิดตำราเรียนเก่าๆ รวมทั้งหนังสือด้านบริหารและการเงินต่างๆ ที่ชอบซื้อเก็บสะสมไว้ออกมาอ่านจึงทำให้เข้าใจ บริษัทที่มีผลประกอบการดูดีมีกำไร แต่อาจจะไม่มีเงินสดหรือเงินฝากอยู่ในบัญชีก็ได้ เพราะมีการนำเงินสดไปใช้อื่นๆ ซึ่งมีสามประเภท ฟังดูหากมีพื้นฐานทางบัญชีเพียงน้อยนิดก็ไม่ยากที่จะเข้าใจมัน […]
Fined for not submitting VAT

มีประสบการณ์เรื่องโดนปรับเรื่องภาษีเพิ่ม อยู่สองเหตุการณ์มาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังครับ สองเหตุนี้เป็นเหตุการที่คล้ายกันแต่ก็เกิดกับสองบริษัทที่เคยทำงานมา ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่นักบัญชี งานหลักๆ ของผมอยู่ทางด้าน Technical และ Production ด้านการผลิต แต่เมื่อแก่ขึ้นเก๋ามากขึ้นเขาก็เลยมอบตำแหน่งให้เป็นเจ้าหน้าที่ “จับฉ่าย” ประมาณว่าทำได้ทุกอย่างแต่ไม่เก่งสักอย่าง 5+ สองเหตุการณ์นี้เกิดกับบริษัทที่ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบงานบัญชีของบริษัท คือมีแค่พนักงานที่คอยออกบิลรับจ่ายเงินเข้าออกของบริษัทเท่านั้น แล้วส่งเอกสารทุกอย่างให้กับบริษัทที่รับทำบัญชีไปจัดการอีกทีหนึ่ง บริษัทแรกเป็นโรงงานรับจ้างประกอบ (Sub-Contract) ยอดขายเดือนๆ หนึ่งก็หลายล้านอยู่บางเดือนเต็มที่ก็สัก 10 ล้านได้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่ยอมที่จะมีพนักงานบัญชีเป็นของตัวเอง เดาเอาเองว่าเพราะว่าจ้างข้างนอกทำคงประหยัดได้มากกว่า แต่ก็สงสััยว่างั้นทำไมบริษัทอื่นๆ (ที่เคยทำงานมา) เขาไม่จ้างข้างนอกทำเอาอะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินใจ? อยู่มาวันหนึ่งบริษัทโดนสรรพากรเรียกเข้าพบและพนักงานที่ได้ไปคุยมานำข่าวกลับมาแจ้งเจ้านายว่าบริษัทมีการค้างชำระเรื่องภาษี VAT และจะต้องโดนเบี้ยปรับเงินเพิ่มเป็นยอดรวมๆ ที่ต้องจ่ายก็หลายแสนบาทอยู่ เจ้านายคงตกใจและผยายามสั่งให้คนอื่นที่เกี่ยวข้อง (โดยเฉพาะบริษัทบัญชีที่รับงานไปทำ) ไปแก้ปัญหานี้แต่ก็ไม่สามารถเครียร์ปัญหาได้ สุดท้ายจึงเรียกผมให้เข้าไปจัดการ ตอนนั้นผมก็มืดแปดด้านว่าที่ไปที่มามันเป็นอย่างไร ผมต้องหาข้อมูลจากรอบด้านเพื่อทำออกมาเป็นรายงานว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร โดยเริ่มจากฟังข้อมูลจากเจ้านายซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ปัญหาความมั่วของเจ้านายผมก็คือว่าแกทำธุกิจหลายอย่าง ดังนั้นเงินเข้าออกกระเป๋าซ้ายขวาหน้าหลังจึงมั่วไปหมด สิ่งที่แกรับรู้จากพนักงานที่เป็นเสมียนภายในบริษัทก็แค่ว่ารับเงินจากไหนเท่าไหร่และต้องจ่ายใครเท่าไหร่ แล้วหากมีรายจ่ายแกก็จะเขียนเช็คให้ แล้วก็แค่เขียนโน๊ตไว้ที่ต้นขั้วเช็คว่าเช็คใบนั้นๆ จ่ายเรื่องอะไรให้ใครไป แกบอกผมว่าแกมีหลักฐานว่าแต่ละเดือนแกได้เซ็นต์เช็คเพื่อจ่ายค่าภาษีต่างๆ ตลอดแต่ทำไมสรรพากรถึงแจ้งว่าบริษัทไม่ได้จ่ายภาษี อาจเป็นไปได้หรือไม่ที่บริษัทบัญชี หรือเจ้าหน้าที่บางคนไม่ได้นำเช็คบางงวดไปจ่ายสรรพากร (ยักยอก) นี่คือข้อมูลตั้งต้นที่ผมมี และผมก็ได้ขอต้นขั้วสมุดเช็คทุกเล่มของแกมาตรวจสอบ จากนั้นผมได้ไปคุยกับบริษัทภายนอกที่รับทำบัญชี ซึ่งก็ให้ข้อมูลว่าในการชำระภาษีแต่ละครั้งทางบริษัทบัญชีไม่ได้เป็นผู้นำเช็คไปจ่ายสรรพากรเองทุกครั้ง บางครั้งเจ้าของบริษัทได้มอบหมายให้คนอื่นไปจ่าย […]